Responsive image
เมนูหลัก
หน้าหลัก
เกี่ยวกับตำบล
ประวัติความเป็นมา
สภาพทั่วไป
สภาพสังคม
สภาพทางเศรษฐกิจ
การบริการพื้นฐาน
สินค้า OTOP
สถานที่สำคัญ/แหล่งท่องเที่ยว
เกี่ยวกับเรา
วิสัยทัศน์/พันธกิจ
ยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา
โครงสร้างส่วนราชการ
บทบาทหน้าที่
แผนพัฒนาท้องถิ่น
บุคลากร
คณะผู้บริหาร
งานบริหารทั่วไป
กลุ่มงานมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น
กลุ่มงานกฎหมายระเบียบและเรื่องร้องทุกข์
กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ
บุคลากรท้องถิ่นอำเภอ
ข่าวสาร สถจ.นพ.
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวกิจกรรม
ข่าวกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น
ข่าวกลุ่มงานการเงิน บัญชีและการตรวจสอบ
ประกาศ ก.ท.จ./ก.อบต.จ.นพ.
มติคณะกรรมการพนักงานส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม
หนังสือราชการ สถ.จ.
บริหารงานบุคคล อบต.
บริหารงานบุคคลเทศบาล
ข่าวกลุ่มงานบริการสาธารณะและประสานงานท้องถิ่นอำเภอ
ข่าวกลุ่มงานมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
ข่าวกลุ่มงานกฎหมาย ระเบียบ และเรื่องร้องทุกข์
การปฏิบัติงานและการให้บริการ
คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
สถิติการให้บริการ
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจ
การใช้จ่ายงบประมาณ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ
รายงานกำกับการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ
รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณ
การจัดซื้อจัดจ้าง
แผนการจัดซื้อจัดจ้าง
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้าง
รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้าง
การจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต
คู่มือหรือแนวทางการดำเนินการเรื่องร้องเรียน
ข้อมูลสถิติเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
ITA
ITA ปี พ.ศ. 2563
ข่าวสารเครือข่าย
ข่าวประชาสัมพันธ์เครือข่าย
ข่าวกิจกรรมเครือข่าย
ปฏิทินกิจกรรมเครือข่าย
ข่าวรับสมัครโอน/ย้ายเครือข่าย
สินค้า OTOP เครือข่าย
ระเบียบ กฎหมาย
หนังสือสั่งการ สถ.
พรบ./พรก.
กฎระเบียบกระทรวง
คำสั่ง สถ.
มติ ก. อบจ.
มติ ก. เทศบาล
มติ ก. อบต.
ข้อบัญญัติ
รายรับรายจ่าย
เว็บบอร์ด
พูดคุยเรื่องทั่วไป
ข้อเสนอแนะ ติชม
รับเรื่องราวร้องทุกข์
เว็บบอร์ดเครือข่าย
กระดานถาม - ตอบ
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
แผนที่ดาวเทียม
คู่มือประชาชน
ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ




หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พระบาง วัดไตรภูมิ ท่าอุเทน

พระบาง วัดไตรภูมิ ท่าอุเทน

     เอ่ยถึง พระบาง ใครๆก็คงนึกถึงพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของลาว ที่ประดิษฐานในเมืองหลวงพระบางในปัจจุบัน เพราะพระบางองค์นั้นมีประวัติยาวนานเกี่ยวข้องกับทั้งราชอาณาจักรกัมพูชา ลาว และสยาม ซึ่งตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นในลังกาทวีป หลังจากพระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพานไปแล้ว 463 ปี และอยู่ลังกาทวีปนานถึง 963 ปี ก่อนมีการอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ เมืองเวียงคำก่อน และต่อมาในสมัยพระเจ้าวิชุลราชจึงได้ อัญเชิญ พระบางไปประดิษฐาน ณ เมืองหลวงเชียงทองล้านช้างร่มขาว เมืองนั้นจึงได้ชื่อเมืองหลวงพระบางสืบมา
     ในสมัยพระเจ้าไชยาเชษฐาธิราชพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงของราชอาณาจักรล้านช้างลงมายังนครเวียงจันทร์ในปี พ.ศ.2103 พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นี้ลงมาสถิต ณ กรุงเวียงจันทร์ด้วย รวมเวลา พระบางอยู่ในเวียงคำ 143 ปี อยู่ในหลวงพระบาง 202 ปี จึงมาสถิตในเวียงจันทร์ดังกล่าว
     ในปี 2322 (อ้างอิงตาม ประวัติพระบาง เขียนโดย จันทะพอน วันนะจิด) เกิดสงครามกับสยาม (สมัยกรุงธนบุรี) พระบาง พร้อมพระแก้วมรกต จึงถูกอัญเชิญไปสยาม(ไทย) ประดิษฐานไว้ในกรุงธนบุรี จนถึงปี พ.ศ.2325 พระเจ้านันทเสนจึงได้ขอพระบางคืนสู่ลาว สถิต ณ เวียงจันทร์อีกครั้งหนึ่ง ได้ 45 ปี ก็ถูกแย่งชิงกลับไปไว้ในกรุงเทพของสยามอีกครั้ง และได้กลับมายังลาวอีกในสมัมยของ พระเจ้าจันทราช ปกครองหลวงพระบาง ซึ่งตรงกับสมัยรัชการที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงมีพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระบางกลับสู่ลาว โดยออกจากกรุงเทพแล้วขึ้นไป ตามลำน้ำโขงทางเมืองปากลาย แขวงไชยบุรี ถึงหลวงพระบาง และประดิษฐาน ณ เมืองนั้นเป็นที่สักการะ บูชาเลื่อมใสของชาวลาว และชาวพุทธทั่วไปมาจนปัจจุบัน
     จะเห็นว่า พระบาง เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญต่อคนบนสองฝั่งโขงมายาวนาน และที่จะเล่าถึงพระบางที่วัดไตรภูมิองค์นี้เพราะ เห็นมีชื่อพ้องกัน ลักษณะก็คล้ายกันมากมาก และเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้คนแถบนี้ไม่แพ้กัน ที่สำคัญมีประวัติการสร้างจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงด้วย

     พระบาง วัดไตรภูมิ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้มสมุทร สูง 80 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานรูปแปดเหลี่ยม สูง 15 นิ้ว รองรับด้วยรูปช้าง 8 เชือก องค์พระหล่อด้วยโลหะหลายชนิดที่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ทอง นาค เงิน ทองคำขาว และทองแดง เป็นต้น ที่รัดประคต(สายรัดเอว) มีนิล ฝั่งอยู่ เป็นระยะ ๆ ที่พระนาภีมรเพชรขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 นิ้วฝั่งอยู่(ปัจจุบันหายไป) องค์พระ และฐานสร้างเป็นส่วนแยกออกจากกันได้ สามารถถอดออกได้เป็น 5 ชิ้น คือ พระรัศมี พระเศียร พระหัตถ์ซ้าย - ขวา ลำตัว และฐานแปดเหลี่ยม
     รอบฐานของพระบาง วัดไตรภูมิ นี้มีจารึกด้วยอักษรลาวเก่า(ไทน้อย) อ่านได้ความว่า "สมเด็จพระเหมะ วันทา กับทั้ง อัง เต วา สิ อุบาสก อุบาสิกา ได้ร่วมแรง ร่วมใจกันสร้างพระนี้ขึ้นมา มีขนาดเท่าตัวคน เพื่อให้ไว้ เป็นที่ สักการะ บูชา เมื่อ ปี พ.ศ. 2008 ตรงกับปีวอก เดือน 3 ขึ้น 9 ค่ำ วันศุกร์..."
     ตามประวัติแล้ว พระบาง วัดไตรภูมิมาจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง จากวัดบ้านคก แขวงคำเกิด ขอให้เราคิดถึงประชาชน บนสองฝั่งแม่น้ำโขง โดยตัดความเป็นชาติ เป็นประเทศออกไป เราจะเห็นภาพความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยแม่น้ำโขงไม่เคยขวางกั้น ยิ่งในเรื่องประเพณี วัฒนธรรมที่ต้องตุ้มโฮม(รวมน้ำใจ)กันแล้ว ถือเป็นปกติที่จะข้ามมาหาสู่ การอัญเชิญพระพุทธรูปจากฝั่งนั้นไปฝั่งนี้ จากฝั่งนี้ไปฝั่งนั้น เป็นไปด้วยศัทธาโดยแท้ พระบาง วัดไตรภูมิก็ถูกอาราธนามาด้วยเหตุนี้เช่นกัน
     ประมาณปี พ.ศ.2450 เจ้าเมืองหินบูน แขวงคำเกิด มีความรักและเคารพพระอาจารย์หงษ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่วัดพระธาตุ ท่าอุเทน เป็นภิกษุที่มีผู้นับถือเลื่อมใสกันทั้งสองฝั่งอยู่แล้ว เจ้าเมืองหินบูน และคณะจึงได้อัญเชิญพระบางจากบ้านคก ตำบลหินเหิบ มามอบให้ท่านและประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุ ท่าอุเทน และต่อมาได้ย้ายมาที่วัดไตรภูมิ จนถึงปัจจุบัน
ที่มา
http://www.sawasdeenakhonphanom.com/

โพสเมื่อ : 20 ธ.ค. 2554